เปิดตัว Snapdragon 8 Elite ชิปเซ็ตเรือธงตัวใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับ CPU รุ่นใหม่อย่าง Qualcomm Oryon ที่ขึ้นชื่อว่าเร็วที่สุดในโลก!

Snapdragon 8 Elite
Snapdragon Summit 2024

ในงาน Snapdragon Summit 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะเมาวี (Maui) หมู่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21-23 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการเปิดตัว Chipset รุ่นล่าสุดของบริษัท Qualcomm Technologies, Inc. คือ “Snapdragon 8 Elite” ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลหลัก (CPU) ตัวใหม่อย่าง “Qualcomm Oryon(2nd Gen) ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลที่เร็ว แรงและมีประสิทธิภาพที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

Snapdragon 8 Elite

เมื่อช่วงต้นปี 2021 ทาง “Qualcomm Technologies, Inc.” ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบ CPU ชั้นนำอย่าง “NUVIA” ซึ่งจะช่วยให้ Qualcomm สามารถออกแบบชิปเซ็ตที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้งานและการประหยัดพลังงานให้กับอุปกรณ์ในยุค 5G ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล๊ปท็อป โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในเทคโนโลยียานยนต์ต่างๆ เพื่อสู้กับทาง Apple ได้

เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ก่อตั้งและบริหารระดับสูงของ NUVIA เองทั้งสามคน ล้วนเคยเป็นวิศวกรระดับสูงในด้านสถาปัตยกรรม CPU ให้กับ Apple มาเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี และในปัจจุบัน อดีต CEO ของ NUVIA ก็ยังดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส หรือ SVP (Senior Vice President) ด้านวิศวกรรมให้กับ Qualcomm Technologies อีกด้วย

Snapdragon 8 Elite” เป็นชื่อใหม่ที่ใช้เรียกแทน “Snapdragon 8 Gen 4” เพื่อให้สอดคล้องกับ Chipset อย่าง Snapdragon X Elite ที่เริ่มใช้งานครั้งแรกบนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์เมื่อกลางปี 2024 โดยคำว่า “Elite” สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าอันโดดเด่นที่ชิปเซ็ตตัวนี้จะแสดงในอุตสาหกรรม

Snapdragon X and 8 Elite

Qualcomm Oryon (1st Gen)” ถูกพัฒนาและติดตั้งมากับ Snapdragon X Elite เพื่อใช้งานบนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ และบริษัทฯ ได้นำขุมพลังของ CPU นี้มาสู่แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon เป็นครั้งแรก โดย “Qualcomm Oryon (2nd Gen)” จะถูกติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ๆที่จะเปิดตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 นี้เป็นต้นไป

Alex Katouzian at Snapdragon Summit 2024

CPU ที่ใช้ใน Snapdragon 8 Elite นี้ มีการเปลี่ยนจาก “Qualcomm Kryo” ที่ใช้ร่วมกันมาตลอด เป็น “Qualcomm Oryon” ถือได้ว่าเป็น CPU ของสมาร์ทโฟนที่ “เร็วที่สุดในโลก” ณ ปัจจุบัน ผลิตบนสถาปัตยกรรม 64-bit ที่เล็กเพียง 3nm แบบไฮบริด 8 แกน (Octa-core) โดยแกนประมวลผลหลัก (Prime Core) 2 แกน มีความเร็วสูงสุดที่ 4.32 GHz ส่วนแกนประมวลผลที่เหลืออีก 6 แกน (Performance Core) ความเร็วสูงสุดที่ 3.53 GHz

ทำให้ CPU ตัวนี้ ทรงพลังทั้งในด้านของความเร็วและประสิทธิภาพ โดยให้ประสิทธิภาพด้านการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 45% และประสิทธิภาพในด้านการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน (ช่วยประหยัดพลังงานโดยรวมได้มากถึง 27% ทำให้สามารถเล่นเกมต่อเนื่องเพิ่มขึ้นได้อีก 2.5 ชม.)

Qualcomm Oryon” มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPU (หรืออีกนัยหนึ่ง คือ การ์ดจอของสมาร์ทโฟน) อย่าง “Qualcomm Adreno” ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้ได้ประสิทธิภาพด้านการทำงานและประสิทธิภาพในการด้านการประหยัดพลังงานดีขึ้นถึง 40% และนี่คือ GPU มือถือตัวแรกที่รองรับ Unreal Engine 5.3 Nanite ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ภาพมีรายละเอียดและความเที่ยงตรงมากขึ้น

Snapdragon 8 Elite gaming

ในส่วนของการรองรับการประมวลผลเกี่ยวกับ AI หรือ Machine learning หน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ หรือ NPU “Qualcomm Hexagon” ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้าน AI ให้เร็วขึ้นถึง 45% และประสิทธิภาพต่อวัตต์เพิ่มขึ้นถึง 45%

Snapdragon 8 Elite มีหน่วยประมวลผลภาพ คือ “Qualcomm Spectra AI ISP” ที่ทำงานผสานกับ NPU “Qualcomm Hexagon” จะช่วยให้การประมวลผลด้านภาพและเสียง รวมไปถึงการท่องเว็บและการเล่นเกม ทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น เช่น การบันทึกภาพความละเอียดสูง การสามารถลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการออกจากวีดีโอได้ ความสามารถในการปรับผิวท้องฟ้าแบบเรียลไทม์เพื่อให้ได้แสงสีที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นได้ในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เป็นต้น

  • การใช้โมเด็ม Snapdragon X80 5G – RF System ที่เป็นโมเด็ม 5G AI (3rd Gen) ของค่าย ทำให้สามารถรองรับ 5G ที่เร็วขึ้น
  • รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 7 ความเร็วสูงสุดที่ 5.8Gbps จากระบบ Qualcomm FastConnect 7900 ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 40%
  • Bluetooth 6.0
  • USB Type-C: Version 3.1 Gen 2, UFS 4.0
Qualcomm FastConnect 7900
  • 4K @ 60Hz, QHD+ @ 240Hz
  • HDR10, HDR10+, HDR vivid, and Dolby Vision

รองรับเทคโนโลยี Qualcomm Quick Charge 5

Snapdragon 8 Elite on smartphones

Snapdragon 8 Elite จะถูกติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ๆ ของแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำ อาทิ ASUS, Honor, iQOO, OnePlus, OPPO, RealMe, Samsung, Vivo, Xiaomi และอื่นๆอีกมากมาย

โดย “Xiaomi 15 series” ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ จะเป็น “มือถือเรือธงรุ่นแรก” ที่มาพร้อมกับ “Snapdragon 8 Elite” ตามมาด้วย Honor Magic7 IQOO 13 และ OnePlus 13 ที่จะเปิดตัวตามมาในวันที่ 30-31 ตุลาคม

และในเดือนพฤศจิกายน จะมีการเปิดตัวของ Asus ROG Phone 9 series RealMe GT 7 Pro Nubia Z70 Ultra และ Redmagic 10 Pro ส่วน Samsung S25 series และ Vivo X200 Ultra จะตามมาในปี 2025 เช่นกัน

จากการทดสอบของ “Xiaomi 15” ที่มาพร้อมกับชิบเซ็ต Snapdragon 8 Elite บน AnTuTu พบว่า มีความแรงกว่า Apple A18 Pro ที่ใช้บน iPhone 16 Pro เกือบเท่าตัว

และจากการทดสอบบน Geekbench 6.3.0 พบว่า ถึงแม้ Snapdragon 8 Elite จะทำคะแนน Single-core ได้น้อยกว่า Apple A18 Pro อยู่เล็กน้อย แต่ในส่วนของ Multi-core สามารถทำคะแนนได้ดีกว่ามาก

ด้วยศักยภาพที่ล้ำหน้าของ CPU GPU และ NPU ที่ทาง Qualcomm พัฒนาขึ้นมารองรับเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน ทำให้ “Snapdragon 8 Elite” สามารถมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งผู้บริโภคจะรู้สึกตื่นเต้นและพึงพอใจกับประสบการณ์ใหม่ที่ได้รับนี้อย่างแน่นอน

Photo Credits: Qualcomm

Share this with your friends via:
Scroll to Top